ภาพประกอบหัวข้อทำไมราคา Google Workspace ในแต่ละปีถึงมีราคาไม่เท่ากัน (Why is the price of Google Workspace different from year to year?)

ทำไมราคา Google Workspace ในแต่ละปีถึงมีราคาไม่เท่ากัน

ราคาของ Google Workspace หรือที่ก่อนเคยเรียกว่า G Suite นั้นมีการเปลี่ยนแปลงปรับเพิ่ม-ลดฟังก์ชั่นการใช้งานตลอดเวลาตั้งแต่เปิดให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน และในส่วนของราคา เนื่องจากหลายปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดราคาซึ่งมีผลมาจากการปรับปรุงคุณสมบัติใหม่ การเพิ่มฟีเจอร์ หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพของบริการ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางธุรกิจที่มีผลในการปรับขึ้นราคาสินค้าของ Google Workspace

Package ที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ ของ Google Workspace

  • Google Workspace Business Starter ตัวเริ่มต้นสำหรับระบบ Google Workspace ซึ่งจะได้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 30GB ต่อ 1 license หรือ 1 ชื่ออีเมลนั่นเอง โดยเป็น Package ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเนื่องจากคุณภาพของสิ่งที่ได้นั้นคุ้มค่ากับราคาสินค้าโดยเป็น Package ที่มีราคาถูกที่สุดซึ่งราคาอยู่ที่ 2650 บาท / license / ปี
  • Google Workspace Business Standard อีก 1 ตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก โดย Standard Plan นั้นจะได้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล 2 TB ต่อ 1 license หรือ 1 ชื่ออีเมล ซึ่งเป็นพื้นที่การใช้งานที่เยอะมากพอสมควรสำหรับใช้งานอีเมลและจัดเก็บไฟล์ผ่านไดรฟ์ ซึ่งราคาสินค้าอยู่ที่ 5600 บาท / license / ปี

สาเหตุที่ราคา Google Workspace ในแต่ละปีถึงมีราคาไม่เท่ากัน

ในส่วนของราคาสินค้านั้นทาง ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการซึ่งคือ ทาง Google จะเป็นผู้กำหนดราคาของสินค้าแต่ละ Package โดยในทุกปีตั้งแต่เริ่มต้นให้บริการมาจะมีการปรับเพิ่ม-ลดราคา หรือ ออกโปรโมชั่นกระตุ้นการขายอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งสาเหตุในการปรับเพิ่ม – ลด ราคานั้นก็คือ การปรับเปลี่ยนของค่าในแต่ละสกุลเงิน เพื่อรักษาความสอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งค่าเงินที่มีการปรับเปลี่ยนขึ้น-ลง อยู่เกือบทุกวันจึงทำให้ต้องมีการปรับราคาสินค้าตามไปด้วยนั้นเอง

ตารางราคาใหม่ของ Google Workspace

เนื่องจาก Google จะมีการปรับขึ้นราคา Google Workspace ในช่วงต้นปี 2024 จะทำให้ราคาที่ต่ออายุและสมัครใหม่นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดดังนี้

ชื่อ Plan
ราคาเดิม(ต้นปี2023)
ราคาใหม่(ต้นปี2024)
Business Starter 
2,250 บาท / ปี
2,950 บาท / ปี
Business Standard
4,500 บาท / ปี
5,600 บาท / ปี
Business Plus
6,700 บาท / ปี
9,500 บาท / ปี
ตารางราคาของ Google Workspace (อ้างอิงค์จากเทคโนโลยีแลนด์)

ข้อมูลโดยสรุป

สาเหตุที่ราคาของ Google Workspace ในแต่ละปีถึงมีราคาไม่เท่ากัน เนื่องจากทาง Google มีการปรับเปลี่ยนราคาของสินค้าอยู่ตลอดโดยสาเหตุหลัก ๆ คือปัจจัยทางธุรกิจและการอัพเดทโปรโมชั่นสินค้า , ฟังก์ชั่นการทำการอยู่ตลอดทำให้ทางผู้จำหน่าย อย่าง Google มีการปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้น และสาเหตุที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างนั้นคือ ค่าเงินบาทและอัตราแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ ที่มีปรับขึ้น-ลงอยู่ตลอดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่ท่านยังสามารถใช้งาน Google Workspace ราคาถูกได้โดยการทำ Hybird

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจ

ภาพประกอบหัวข้อเราสามารถเพิ่มพื้นที่ให้ User ใน Google Workspace ได้หรือไม่ ? (Can we add space for users in Google Workspace?)

เราสามารถเพิ่มพื้นที่ให้ User ใน Google Workspace ได้หรือไม่

สำหรับระบบ Google Workspace ในปัจุบันนั้นมีให้เลือกใช้งานที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ อยู่ 2 Plan ได้แก่ Google Workspace Business Starter และ Google Workspace Business Standard ซึ่งทั้ง 2 Plan นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร สามารถคลิ๊กที่ Link เพื่อดูข้อมูลโดยละเอียดของทั้ง 2 Plan ได้เลย

เดิมทีพื้นที่ของ Google Workspace มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำนวนเท่าใด

  • Google Workspace Business Starter ตัวเริ่มต้นสำหรับระบบ Google Workspace ซึ่งจะได้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 30GB ต่อ 1 license หรือ 1 ชื่ออีเมลนั่นเอง
  • Google Workspace Business Standard อีก 1 ตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากกว่า Google Workspace Business Starter 6-7 เท่าตัว โดย Standard Plan นั้นจะได้พื้นที่ในการจัดเก้บข้อมูล 2 TB ต่อ 1 license หรือ 1 ชื่ออีเมล ซึ่งเป็นพื้นที่การใช้งานที่เยอะมากพอสมควรสำหรับใช้งานอีเมลและจัดเก็บไฟล์ผ่านไดรฟ์

เพิ่มพื้นที่ของ Google Workspace ได้หรือไม่

ในปัจจุบัน Google Workspace ไม่สามารถซื้อพื้นที่เพิ่มได้จาก Plan ที่ใช้งานอยู่แล้ว หากต้องการพื้นที่เพิ่มจากเดิมจะสามารถทำได้เพียง เปลี่ยน Plan การใช้งานเท่านั้นเช่นการเปลี่ยนจาก Google Workspace Business Starter ไปเป็น Google Workspace Business Standard ทุก license จึงจะได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้น จาก 30 GB ต่อ 1 license เป็น 2 TB ต่อ 1 license

ข้อมูลโดยสรุป

ในปัจจุบันทาง Google ได้ทำการ ตัดบริการในส่วนของการซื้อพื้นที่เพิ่มของ Google Workspace Business Starter ออกแล้ว จึงไม่สามารถที่จะซื้อพื้นที่เพิ่มได้ โดยจะสามารถทำได้เพียงเปลี่ยน Plan หรืออัพเกรด จาก Starter ไปเป็น Google Workspace Business Standard เพื่อเพิ่มพื้นที่ ต่อ 1 license จาก 30 GB เป็น 2 TB โดยการ อัพเกรดนี้หากท่านมีการใช้งานอยู่ 5 license ในโดเมนนั้น ๆ ต้องทำการ อัพเกรดทั้ง 5 license ไม่สามารถอัพเกรด เพียงบาง license จากทั้งหมดได้ แต่ท่านสามารถใช้งาน Google Workspace ราคาถูกได้โดยการทำ Hybird กับเทคโนโลยีแลนด์

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจ

ภาพประกอบหัวข้อGoogle Workspace Business Starter VS  Standard มีข้อแตกต่างอย่างไร ? (Google Workspace Business Starter VS Standard. What are the differences?)

Google Workspace Business Starter VS  Standard มีข้อแตกต่างอย่างไร ?

Google Workspace มีการเปลี่ยนแปลงชื่อมาจาก G Suite เป็น Google Workspace และมีการปรับปรุง Plan บริการด้วย การเปรียบเทียบระหว่าง Google Workspace Business Starter และ Google Workspace Business Standard นั้นมีข้อแตกต่างกันที่เห็นได้ชัดเจนดังนี้

Google Workspace Business Starter

Plan เริ่มต้นสำหรับระบบอีเมลของทาง Google ซึ่งเหมาะกับองค์กร, บริษัทตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานสำนักงานที่ครบถ้วนในรูปแบบ On cloud ที่ทำให้คุณสามารถทำได้ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านทุกอุปกรณ์ สามารถเข้าใช้งานผ่าน Web Browser ที่มีความนิยมอย่าง Google chrome , Friefox , Safari โดยรายละเอียดของ Plan Google Workspace Business Starter มีดังนี้

  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีเมลและไฟล์ใน Google ไดรฟ์ จำนวน 30 GB ต่อ 1 license
  • เครื่องมือสำหรับการจัดการไฟล์ที่ครบถ้วน ทั้ง Docs , Sheets ,Slides
  • ใช้งานอีเมลในชื่อ @บริษัท
  • เข้าใช้งานได้ง่ายผ่าน Web browser www.gmail.com
  • เครื่องมือสำหรับจัดประชุมสัมมนาออนไลน์ Google meeting รองรับผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 100 คน
  • มีหน้า Admin สำหรับตรวจสอบควบคุม User ผู้ใช้งานภายในองค์กรของตนเอง

Google Workspace Business Standard

Plan ขั้นถัดมาจาก Starter plan สำหรับระบบอีเมลของทาง Google ซึ่งเหมาะกับองค์กร, บริษัทตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการใช้งานพื้นที่ในการจัดการอีเมลและไฟล์เอกสารที่มากกว่า Starter plan
ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานและการใช้งานเช่นเดียวกันกับ Starter plan ทุกประการโดยมีรายละเอียดดังนี้

  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีเมลและไฟล์ใน Google ไดรฟ์ จำนวน 2 TB ต่อ 1 license
  • เครื่องมือสำหรับการจัดการไฟล์ที่ครบถ้วน ทั้ง Docs , Sheets ,Slides
  • ใช้งานอีเมลในชื่อ @บริษัท
  • เข้าใช้งานได้ง่ายผ่าน Web Browser www.gmail.com
  • เครื่องมือสำหรับจัดประชุมสัมมนาออนไลน์ Google meeting รองรับผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 150+ คน และสามารถบันทึกการประชุมในรูปแบบวีดีโอเก็บไว้ใน ไดรฟ์ ได้
  • มีหน้า Admin สำหรับตรวจสอบควบคุม User ผู้ใช้งานภายในองค์กรของตนเอง

สรุปข้อแตกต่างระหว่างGoogle Workspace Business Starter VS  Standard

สำหรับ Google Workspace Business Starter และ  Standard Plan นั้นมีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนอยู่ดังนี้

  • ด้านราคาสินค้า

Google Workspace Business Starter จะมีราคาต่อ 1 license /ปี อยู่ที่ 2450 บาท (อ้างอิงราคาจากเทคโนโลยีแลนด์ วันที่25/11/2023)
Google Workspace Business Standard จะมีราคาต่อ 1 license /ปี อยู่ที่ 4800 บาท (อ้างอิงราคาจากเทคโนโลยีแลนด์ วันที่25/11/2023)

  • ด้านพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

Google Workspace Business Starter จะมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล อีเมล และ ไดรฟ์ รวมกันอยู่ที่ 30 GB
Google Workspace Business Standard จะมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล อีเมล และ ไดรฟ์ รวมกันอยู่ที่ 2 TB

  • ด้านการจัดประชุมสัมมนาออนไลน์ Google meeting

Google Workspace Business Starter สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ที่ 100 คน
Google Workspace Business Standard สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ที่ 150 คน และสามารถบันทึกวีดีโอการประชุมครั้งนั้นไว้ใน ไดรฟ์ เพื่อใช้งานการสรุปการประชุมภายหลังได้อีกด้วย

ข้อมูลโดยสรุป

ข้อแตกต่างของ Google Workspace Business Starter และ Standard นั้นมีข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือด้านราคาของสินค้า ทั้ง 2 Plan ที่แตกต่างกันค่อนข้างมากแต่ในความแตกต่างของราคานั้นก็แลกมาด้วยพื้นที่การใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ที่ต้องเลือกระหว่าง 2 Plan นี้ควรพิจารณาจากความต้องการใช้งานของผู้ใช้งานในองค์กรเป็นหลักว่าใช้งาน Plan ใดจึงจะเหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุดเนื่องจากพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจสมัยใหม่ที่ส่วนใหญ่แล้วทำการส่งข้อมูลและจัดเก็บไฟล์ผ่าน cloud ท่านสามารถใช้งาน Google Workspace ราคาถูก ได้โดยการทำ Hybird

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจ

ใช้งาน Google Workspace และ Gmail หลายๆคนใน Account เดียวกันอย่างปลอดภัย !

การใช้งาน Google Workspace และ Gmail หลาย ๆ คนใน Account เดียวกันนั้น ทาง Google ก็จะมีการป้องกันความปลอดภัยมากขึ้นนั้นก็คือ การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (Two Factor Authentication) ซึ่งการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนนั้นมีหลายหลายวิธีที่ให้เรานั้นได้เลือกใช้ ซึ่งส่วนใหญ่เรานั้นจะเลือกวิธีการขอรหัส OTP ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกไว้ แต่วันนี้เรามีอีกวิธีนึงมานำเสนอนั้นก็คือการยืนยันตัวตนผ่าน Application Google Authenticator

การยืนยันตัวตนผ่าน Application Google Authenticator

  1. เข้าไปที่ Application Play Store
  2. ในช่องค้นหาพิมพ์ชื่อ Application “Google Authenticator” และติดตั้งลงโทรศัพท์
  3. เข้า Application Google Authenticator
  4. เลือก Scan a QR code
  5. สามารถนำรหัส 6 หลักไปใช้ในการยืนยันตัวตนได้เลย

ข้อมูลโดยสรุป

การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (Two Factor Authentication) มีหลายหลายวิธีที่ให้เรานั้นได้เลือกใช้ ซึ่งส่วนใหญ่เรานั้นจะเลือกวิธีการขอรหัส OTP ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกไว้ แต่การยืนยันตัวตนผ่าน Application Google Authenticator นั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

แสดง reaction ผ่าน Google Meet ได้แล้ว

ตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถใช้อีโมจิเพื่อแชร์ปฏิกิริยาในการประชุมใน Google Meet บนเว็บ, อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet และ iOS ได้แล้ว ส่วน Android จะพร้อมให้บริการในเร็วๆ นี้

ปฏิกิริยาเหล่านี้จะแสดงเป็นอิโมจิขนาดเล็กในไทล์วิดีโอของผู้ส่งและลอยขึ้นทางด้านซ้ายของหน้าจอ เมื่อมีผู้เข้าร่วมหลายคน จะเห็นอิโมจิจำนวนมากที่ด้านซ้ายของหน้าจอ

หากต้องการแชร์การแสดงความรู้สึก ให้เลือกไอคอนยิ้มในแถบควบคุมเพื่อรับแถบแสดงความรู้สึก ผู้ใช้งานสามารถวางเมาส์เหนือแถบนี้เพื่อเลือกโทนสีผิวที่ต้องการ ซึ่งจะนำไปใช้กับอิโมจิทั้งหมดที่สามารถเปลี่ยนสีได้ปฏิกิริยาโต้ตอบในการประชุมช่วยให้มีส่วนร่วมและมีส่วนร่วมในการประชุมโดยไม่รบกวนผู้พูด นอกจากนี้ ด้วยตัวเลือกในการเลือกโทนสีผิวที่แสดงถึงตัวตนของคุณได้ดีที่สุด คุณจึงสามารถเข้าร่วมได้อย่างแท้จริง

Cr.https://workspaceupdates.googleblog.com/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตัวเลือกใหม่ดูอักขระที่ไม่ได้พิมพ์ใน Google Docs

เมื่อดูหรือแก้ไข Google Docs ทั่วไปปกติจะมองไม่เห็นอักขระที่ไม่ได้พิมพ์ เช่น ตัวแบ่งบรรทัด ตัวแบ่งส่วน แท็บ และช่องว่าง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ใช้งานสามารถเลือกแสดงอักขระที่ไม่พิมพ์ออกมาเพื่อดูว่าเอกสารมีการจัดวางอย่างไร เมื่อเปิดใช้ฟังก์ชั่นใหม่ของระบบ Google Workspace จะเห็นสัญลักษณ์หรือข้อความที่แสดงดังนี้

  • ย่อหน้า
  • เส้น
  • ตัวแบ่งส่วน
  • ตัวแบ่งหน้า
  • ตัวแบ่งคอลัมน์
  • แท็บ
  • ช่องว่าง

non printing characters

คุณลักษณะนี้ให้การแสดงภาพของสิ่งที่ควบคุมการจัดรูปแบบในเอกสาร ช่วยให้ผู้ใช้งานระบบ Google Workspace ในการใช้งาน Google Docs ทำการแก้ไขที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้นมาก

Cr.https://workspaceupdates.googleblog.com/

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้หรือไม่ Google Docs สามารถแสดง Code ได้

แทรกอิโมจิแบบ Inline พร้อมข้อความใน Google Docs

รู้หรือไม่โดเมนที่จดใหม่กับ Reseller อื่นจะย้ายมาที่ Google Domain เลยไม่ได้

เพิ่มตัวแบ่งหน้าก่อนย่อหน้าใน Google Docs ในมือถือ

ทำลายน้ำแบบอักษรใน Google Docs

รู้หรือไม่ Google Docs สามารถแสดง Code ได้

ปัจจุบันใน Google Docs สามารถใช้งานร่วมกันหลายคนได้ซึ่งเป็นการใช้งานออนไลน์และถือว่ามีประโยชน์มากๆในขณะเดียวกันการใช้งานหากผู้ใช้งานแผนกคอมพิวเตอร์หรือเจ้าหน้าที่ IT ในบริษัทต้องการแสดง Code ของเนื้อหาหรือรูปภาพประกอบเป็น Code เช่น Java Python เป็นต้น ผู้ใช้งานไม่ต้องนั่งเขียน Code เพื่อการประหยัดเวลาและสะดวกผู้ใช้งานสามารถใช้ฟังก์ชั่นใน Google Docs แปลงเป็น Code ได้เลยทันที ดังตัวอย่างดังนี้

code blocks

ผู้ดูแลระบบ: ไม่มีการควบคุมของผู้ดูแลระบบสำหรับคุณลักษณะนี้
ผู้ใช้ปลายทาง: หากต้องการจัดรูปแบบและแสดงรหัสในเอกสาร ให้เลือก แทรก > บล็อกการสร้าง > บล็อกรหัส > เลือกภาษาโปรแกรมของคุณ หรือค้นหา @ > บล็อกรหัส > เลือกภาษาโปรแกรม

Cr.https://workspaceupdates.googleblog.com/

บทความที่เกี่ยวข้อง

สลับเครือข่ายอัตโนมัติใน Google Voice

Google Voice จะสลับสายที่ต่อเนื่องระหว่างบริการข้อมูล cellular และ Wi-Fi โดยอัตโนมัติ เมื่อพิจารณาแล้วว่าเครือข่ายประเภทหนึ่งจะทำให้คุณภาพการโทรดีขึ้น ก่อนหน้านี้ Voice ระบุเครือข่ายในอุดมคติเฉพาะในเวลาที่โทรออกเท่านั้น  สำหรับการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพเครือข่ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการโทร

ผู้ดูแลระบบ: ไม่มีการควบคุมของผู้ดูแลระบบสำหรับคุณลักษณะนี้
ผู้ใช้ปลายทาง: ไม่มีการตั้งค่าผู้ใช้ปลายทางสำหรับคุณสมบัตินี้

Cr.https://workspaceupdates.googleblog.com/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใช้ SIP Link เพื่อเชื่อมโยงหมายเลขโทรศัพท์จากผู้ให้บริการในพื้นที่กับ Google Voice

ตั้งกฎที่กำหนดเองสำหรับสายเรียกเข้าของ Google Voice

โอนสายใน Google Voice

Google Voice ใช้งานได้ง่ายขึ้นบน Computer

รองรับภาษาเพิ่มเติมและคำบรรยายใน Google Meet

Google Meet คำบรรยายที่แปลแล้วจะมีการแปลภาษาของผู้พูดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประชุมมีความครอบคลุมและทำงานร่วมกันมากขึ้นสำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมโดย Google ได้ประกาศการรองรับภาษาที่แปลเพิ่มเติมใน Google  Meet ดังนี้

  • แปลสายภาษาอังกฤษเป็นภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีนกลาง (ตัวย่อ) และภาษาสวีเดน
  • แปลสายภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน โปรตุเกส และสเปนเป็นภาษาอังกฤษ

**นอกจากนี้ คำอธิบายภาพมาตรฐานมีให้บริการในภาษาญี่ปุ่น รัสเซีย อิตาลี เกาหลี ดัตช์ โปรตุเกส จีนกลาง (ดั้งเดิม)**

ผู้ดูแลระบบ: ไม่มีการควบคุมของผู้ดูแลระบบสำหรับคุณลักษณะนี้
ผู้ใช้ปลายทาง: คุณลักษณะนี้จะพร้อมใช้งานตามค่าเริ่มต้น

Cr.https://workspaceupdates.googleblog.com/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปรับปรุงการมองเห็นของคุณในวิดีโอคอล Google Meet

การแสดงภาพซ้อนภาพสำหรับ Google Meet ใน Chome

ค้นหาเนื้อหา Google Meet ใน Google Drive

คำบรรยายสดที่แปลแล้วใน Google Meet พร้อมให้บริการโดยทั่วไปแล้ว