กิจกรรมผู้รับมอบสิทธิ์อีเมลในเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย

ใน Gmail (Google Workspace) ผู้ดูแลระบบขั้นสูงสามารถที่จะเข้าถึงคุณสมบัติความปลอดภัยต่างๆได้รวมถึงความปลอดภัยของระบบและเครื่องมือตรวจสอบ และยังสามารถที่จะให้สิทธิ์การเข้าถึงคุณสมบัติความปลอดภัยบางอย่างแก่ผู้ดูแลระบบคนอื่นได้ เช่น ให้สิทธิ์เฉพาะแดชบอร์ดความปลอดภัย เป็นต้น

มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้ผู้ดูแลระบบสามารถแสดงการดำเนินการหลังการส่งที่ดำเนินการโดยผู้ใช้ที่ได้รับมอบสิทธิ์ในเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสามารถดูได้ว่าผู้รับมอบสิทธิ์:

  • เปิด ตอบกลับ หรือทำเครื่องหมายข้อความว่ายังไม่ได้อ่าน
  • ย้ายข้อความไปที่ถังขยะหรือกลับไปที่กล่องจดหมาย
  • ลิงค์ (Link) ที่คลิกหรือไฟล์ (File) แนบ
  • ไฟล์ (File) แนบที่ดาวน์โหลด (Download)

ใครได้รับผลกระทบ

ผู้ดูแลระบบ

ทำไมถึงสำคัญ

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจการดำเนินการของผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบหรือการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินการของผู้ใช้ที่ได้รับมอบสิทธิ์เทียบกับเจ้าของบัญชี

เริ่มต้น

  • ผู้ดูแลระบบ: ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย (Security Investigation Tool) >เหตุการณ์ในบันทึกของ Gmail (Gmail log events) > คอลัมน์ผู้รับมอบสิทธิ์” และ “มีผู้รับมอบสิทธิ์” (“Delegate” and “Has delegate” ) 
  • ผู้ใช้ปลายทาง: ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการใดๆ

อัตราการเปิดตัว

  • โดเมนการเผยแพร่อย่างรวดเร็วและตามกำหนดการ: การเปิดตัวแบบเต็ม (1–3 วันสำหรับการมองเห็นคุณลักษณะ) เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2022

การจำหน่าย

  • พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้า Google Workspace Enterprise Standard Enterprise Plus, Education Standard และ Education Plus
  • ไม่มีให้บริการใน Google Workspace Essentials, Business Starter, Business Standard, Business Plus, Enterprise Essentials, Education Fundamentals, Frontline และ Nonprofits รวมถึงลูกค้า G Suite Basic และ Business  

Cr.https://workspaceupdates.googleblog.com 

บทความที่เกี่ยวข้อง

วิธีการใช้งาน Slide ผ่านระบบ Google Workspace

วิธีการใช้งาน Docs ผ่านระบบ Google Workspace

Google Workspace for User

Google Workspace for Admin

Google Workspace ประเภท Basic สามารถทำอะไรได้บ้าง ?

 

กำหนดและจัดการ Chat Spaces คำอธิบาย Space และแนวทางปฏิบัติด้วยบทบาท “ผู้จัดการ” ใหม่

มีอะไรเปลี่ยนแปลง

Google Workspace กำลังนำเสนอการปรับปรุงหลายอย่างสำหรับ Spaces (ช่องว่าง) ใน Google Chat เพื่อช่วยให้เราจัดระเบียบผู้คน หัวข้อ และโครงการได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการปรับปรุงเหล่านี้รวมถึง

  • บทบาทของผู้จัดการเพื่อให้ผู้ใช้บางรายสามารถควบคุมการจัดการพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น
  • คำอธิบาย Space (ช่องว่าง) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าบริบทสำหรับ Space (ช่องว่าง) ของตนได้
  • แนวทางพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมการสื่อสารปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ใครได้รับผลกระทบ

  • ผู้ใช้ปลายทาง

ทำไมถึงสำคัญ

บทบาทผู้จัดการมีเครื่องมือเพื่อส่งเสริมการสนทนาที่ดี และควบคุมความพร้อมใช้งานของพื้นที่ภายในองค์กร ผู้สร้าง Space (ช่องว่าง) จะเป็นผู้จัดการโดยค่าเริ่มต้น และสามารถมอบหมายบทบาทนี้ให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ใน Space (ช่องว่าง) ได้เช่นกัน

ผู้จัดการพื้นที่จะมีป้ายข้างชื่อในรายชื่อสมาชิก

ผู้จัดการยังสามารถเพิ่มคำอธิบายสำหรับช่องว่างได้ ช่องนี้สามารถใช้เพื่ออธิบายวัตถุประสงค์ของอวกาศได้ เช่น ‘สถานที่พูดคุยเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยทุกเรื่อง’ ซึ่งเป็นบริบทที่เป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกของอวกาศ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มคำอธิบายพื้นที่เมื่อสร้าง Space (ช่องว่าง) หรือโดยการเลือก “ดูรายละเอียดพื้นที่” สำหรับพื้นที่ที่มีอยู่ทั้งบนเว็บ (web) และอุปกรณ์เคลื่อนที่ คำอธิบาย Space (ช่องว่าง) สามารถดูได้เมื่อผู้ใช้อยู่ในมุมมอง “Browse Spaces” หรือโดยการเลือก “ดูรายละเอียด Space” 

เพิ่มคำอธิบายช่องว่าง

นอกจากนี้ ผู้จัดการสามารถอธิบายแนวทางพื้นที่ที่กำหนดกฎเกณฑ์และความคาดหวังสำหรับสมาชิกเพื่อสร้างประสบการณ์ชุมชนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

แนวทางการใส่ช่องว่าง

เริ่มต้น

  • ผู้ดูแลระบบ: หากไม่มีส่วนควบคุมของผู้ดูแลระบบสำหรับฟีเจอร์ (feature) นี้ โปรดไปที่ศูนย์ช่วยเหลือเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่แชท (Chat) สำหรับองค์กรของคุณ
  • ผู้ใช้ปลายทาง: ไม่มีการตั้งค่าผู้ใช้ปลายทางสำหรับคุณลักษณะนี้

อัตราการเปิดตัว

มือถือ

  • โดเมนการเผยแพร่อย่างรวดเร็วและตามกำหนดการ: การขยายเวลาเปิดตัว (อาจนานกว่า 15 วันสำหรับการมองเห็นคุณลักษณะ) เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2022 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 14 มีนาคม 2022

เว็บ

  • โดเมนการเผยแพร่อย่างรวดเร็วและตามกำหนดเวลา: การเปิดตัว(สูงสุด 15 วันสำหรับการมองเห็นคุณลักษณะ) เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2022

คำอธิบายและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับพื้นที่

  • คาดว่าจะเปิดตัวคุณลักษณะคำอธิบายและหลักเกณฑ์ที่จะเริ่มในปลายเดือนนี้ เราจะแชร์การอัปเดต (update) ในบล็อกการอัปเดตเวิร์กสเปซ (Update workspace) เมื่อเริ่มเปิดตัว

มีจำหน่าย

  • พร้อมให้บริการแก่ลูกค้า Google Workspace ทุกราย รวมถึงลูกค้า G Suite Basic และ Business
  • มีให้สำหรับผู้ใช้ที่มีบัญชี Google ส่วนบุคคล

ทรัพยากร

  • ความช่วยเหลือสำหรับผู้ดูแลระบบ Google Workspace: เพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่แชท (Chat) สำหรับองค์กร
  • ความช่วยเหลือของ Google:เกี่ยวกับช่องว่างและการสนทนากลุ่ม

Cr: https://workspaceupdates.googleblog.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

เข้าร่วมการประชุมและการโทรด้วยเสียงจากการแชทแบบ 1:1 โดยใช้ Google Chat ใน Gmail บนมือถือ

Spaces ใน Google Chat สามารถลบได้แล้ว

Google Chat เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

PIN ในการสนทนาผ่าน Google Chat

ติดดาวการสนทนาใน Chat ที่ชื่นชอบ

 

 

 

วิธีกู้คืนไฟล์ Google Slides

บางครั้งเราอาจเคยที่จะเผลอลบเอกสารสำคัญออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจไม่ว่าจะเป็นการเผลอลบด้วยตัวเอง หรือมีบุคคลอื่นมาใช้งานคอมพิวเตอร์ (Computer) ของเราและเผลอลบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเราไม่ทราบวิธีการกู้คืนไฟล์ (File) ก็อาจจะต้องสร้างงานนั้นขึ้นมาใหม่ซึ่งจะเป็นการเสียเวลามาก โดยเฉพาะใน Google Slide ที่เราจะสร้างงานนำเสนอเอาไว้ ไม่ว่าจะนำเสนอในที่ประชุม หรืออาจจะสร้างเป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับนักเรียนนักศึกษา ซึ่งกว่าจะสร้างเสร็จจะต้องมีการใส่ข้อมูลต่างๆและตกแต่ง งานในไฟล์ (File) นั้นให้มีความน่าสนใจซึ่งก็อาจจะต้องใช้เวลาในการทำนานพอสมควร หากเราได้เผลอลบไปและทราบวิธีการกู้คืนไฟล์ (File) นั้นก็จะทำให้เราประหยัดเวลาในการทำใหม่และสะดวกมากขึ้น

วิธีการกู้คืนไฟล์  Google Slides

1.เข้าสู่ระบบบัญชี Google จากนั้นไปที่ “Google apps”

2.จากนั้นเลือก “Slides”

 

3.เข้าสู่ไฟล์ (File) งานที่เราได้ทำการเผลอลบ Slides บางส่วนไป จากนั้นเลือก “ไฟล์” (File)

4.เลือก “ประวัติเวอร์ชัน” (Version history) 

5. เลือก “ดูประวัติเวอร์ชัน” (See version history)

6.จากนั้นทำการเลือกว่าต้องการกู้คืนไฟล์ (File) ตั้งแต่วันที่เท่าไร เวลาใด

7.จากนั้นคลิกที่ “ขยายเวอร์ชันละเอียด” (Expand detailed version)

8.จากนั้นให้คลิกในส่วนที่ขยายออกมา ระบบจะแสดงรายละเอียดของไฟล์ (File) ที่เราได้ทำการลบออกไป

9.จากนั้นคลิกที่ “คืนค่าเวอร์ชันนี้” (Restore this version)

10.จากนั้นระบบจะสอบถามเราว่าต้องการที่จะคืนค่าเวอร์ชันนี้หรือไม่ ให้คลิกที่ “คืนค่า” (Restore)

11.จากนั้นระบบจะทำการกู้คืนไฟล์ (File) ที่เราได้ทำการลบไปคืนมา

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำงานร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ใช้บัญชี Google Drive, Docs, Sheets, Slides, and Sites

interface ความคิดเห็นใหม่สำหรับ Google Docs,Sheet,slidesบน Android

ช่องทางการตอบโต้ใหม่สำหรับ Google Drive, Docs, Sheets, Slides, และ Forms

รายงานความเป็นต้นฉบับพร้อมใช้งานสำหรับไฟล์ Google Slide

Interface ความคิดเห็นใหม่สำหรับ Google Drive,Docs,Sheet,Slide บน IOS

 

สร้างหรือนำเข้าลายน้ำใน Google Docs

รู้หรือไม่ว่าใน Google Docs ได้เพิ่มฟีเจอร์ (Feature) ในการสร้างและนำเข้าลายน้ำได้แล้ว ทั้งในรูปแบบของรูปภาพและข้อความ ซึ่งการเพิ่มลายน้ำไว้ในเอกสารของเราเป็นการปกป้องและแสดงความเป็นเจ้าของในเอกสารของเราได้ และการเพิ่มลายน้ำจะถูกทำซ้ำในทุกหน้าของเอกสาร ประโยชน์ของลายน้ำอีกอย่างหนึ่งก็คือ จะช่วยให้เราสามารถใส่โลโก้ของบริษัท หรือการสร้างแบรนด์ของเรา อีกทั้งลายน้ำจะยังคงอยู่เมื่อนำเข้าหรือส่งออกเอกสารจาก Microsoft Word

วิธีการเพิ่มลายน้ำใน Google Docs

การเพิ่มลายน้ำแบบรูปภาพ

1.เปิดเอกสาร Google Docs ในคอมพิวเตอร์ (Computer)

2. จากนั้นคลิกที่ “ว่าง” หรือ ถ้าหากว่ามีเอกสารที่ต้องการจะเพิ่มลายน้ำไว้อยู่แล้วให้เปิดเอกสารนั้นขึ้นมา

3.จากนั้นคลิกที่ “แทรก” เลือก “ลายน้ำ”

4.ให้คลิกที่ “รูปภาพ” เลือก “เลือกรูปภาพ”

5.จากนั้นทำการแทรกลายน้ำที่ต้องการ กรณีที่มีลายน้ำในคอมพิวเตอร์ (Computer) ให้เลือก “อัปโหลด” และคลิก “เรียกดู”

6.เลือก Folder ที่ได้ทำการบันทึกรูปภาพไว้ จากนั้น “เลือกรูปที่เราต้องการ” คลิก “Open”

7.จากนั้นจะปรากฏลายน้ำที่เราเลือก

1.สามารถเปลี่ยนลายน้ำได้โดยกดที่รูปดินสอ

2.ในส่วนของสเกล (Scale) สามารถปรับได้ว่าต้องการให้ลายน้ำมีขนาดเท่าใด

3.ปรับให้ลายน้ำจางหรือไม่จาง

4.เมื่อปรับลายน้ำตามที่ต้องการแล้วให้คลิก “เสร็จสิ้น”

การเพิ่มลายน้ำแบบข้อความ

1.เลือกที่ “ข้อความ”

2.ใส่ข้อความที่ต้องการทำเป็นลายน้ำ

3.เลือก Font (แบบอักษร) ที่ต้องการ

4.กำหนดขนาดของตัวอักษรที่ต้องการ

5.เลือก ตัวหนา ตัวเอียง และเลือกสีที่ต้องการ

6.กำหนดความโปร่งใสของลายน้ำที่ต้องการ

7.กำหนดได้ว่าต้องการให้ลายน้ำเป็นแบบทะแยงมุมหรือแบบแนวนอน

8.จากนั้นคลิก “เสร็จสิ้น”

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มตัวแบ่งหน้าก่อนย่อหน้าใน Google Docs ในมือถือ

วิธีใหม่ในการปรับแต่งตารางใน Google Docs

Google Docs Export PDF แล้ว Font และช่องไฟไม่ตรง

สร้างและทำงานกับเอกสารที่มีการวางแนวหลายหน้าใน Google Docs

การ Export ไฟล์ Google Docs ไปเปิดในโปรแกรม Word

 

 

 

เปลี่ยนสถานะการสนทนาใน Gmail

รู้หรือไม่ว่าเราสามารถตั้งค่าสถานะการสนทนาใน Gmail (Google Workspace) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เราต้องการได้ หากว่าคุณไม่ต้องการให้เสียงข้อความการสนทนาใน Gmail (Google Workspace) มารบกวนขณะที่เรากำลังประชุมอยู่หรือต้องการความสงบ หรือเราต้องการแสดงสถานะว่าตอนนี้เราไม่อยู่เป็นเวลานานเท่าไรแล้ว ก็สามารถทำได้

ขั้นตอนการเปลี่ยนสถานะการสนทนาใน Gmail (Google Workspace)

1.เข้าสู่ระบบ บัญชี Gmail (Google Workspace)

2.คลิกที่ด้านขวาบน แล้วเลือกแชท (Chat)

3.ในแผงแชท (Chat) ให้เราเลือกสถานะที่เราต้องการ มีไอคอน (Icon) ดังต่อไปนี้

  • “อัตโนมัติ” (Automatic) คือ ว่างอยู่
  • “ห้ามรบกวน” (do not disturb) หากเลือกสถานะห้ามรบกวนให้เลือกระยะเวลาที่ต้องการปิดการแจ้งเตือนด้วย
  • “ไม่อยู่” (Set as away) จะแสดงสถานะว่าเราไม่อยู่ในช่วง 15 นาทีที่ผ่านมา หรือ ไม่อยู่เกินกว่า 15 นาทีที่ผ่านมา

4.นอกจากสถานะที่มีอยู่แล้วเรายังสามารถกำหนดสถานะที่เราต้องการได้เองอีกด้วย โดยการเลือกที่ “ใส่สถานะ” (Add a status)

5.ใส่ข้อความที่เราต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มหรือเปลี่ยนอีโมจิ (Emoji) ที่เราต้องการได้อีกด้วย จากนั้นในส่วนของ “ล้างสถานะเมื่อพ้น” (Clear status after) เลือกระยะเวลาสิ้นสุดสถานะที่เรากำหนด จากนั้นคลิก “เสร็จสิ้น” (Done)

บทความที่เกี่ยวข้อง

[Google Workspace] วิธีติดตั้งอีเมล์ลงมือถือผ่าน App Gmail (android)

[Google Workspace] วิธีติดตั้งอีเมล์ลงมือถือผ่าน App Gmail (ios)

Gmail สำหรับ Google Workspace คืออะไร

ดูพื้นที่ของ Gmail ใน Google Workspace มีขนาดเท่าไร ?

Google Apps ฟรีถูกยกเลิกให้บริการ 1 กรกฎาคม 2565 นี้

 

 

เข้าร่วมวิดีโอคอลจาก Gmail

การติดต่อสื่อสารแบบวิดีโอคอล (Video call) นั้นช่วยให้การติดต่อสื่อสารในปัจจุบันสะดวกมากขึ้น เพราะว่าในสมัยก่อนเราอาจจะแค่คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ซึ่งได้ยินเพียงแค่เสียงเท่านั้น แต่เมื่อมีการติดต่อสื่อสารแบบวิดีโอคอล (Video call) เข้ามา เราก็สามารถที่จะมองเห็นหน้า ได้ยินเสียงและที่สำคัญบุคคลที่เข้าร่วมไม่ว่าจะอยู่ที่เดียวกันหรือแม้แต่จะอยู่ที่ห่างไกลออกไปก็สามารถที่จะติดต่อสื่อสารกันผ่านวิดีโอคอล (Video call) นี้ได้ ในปัจจุบันได้นำวิดีโอคอล (Video call) เข้ามาใช้ทั้งในเรื่องของการติดต่อสื่อสารแบบส่วนตัว แบบธุรกิจ หรือการประชุมติดต่องานระหว่างหัวหน้างานและพนักงาน ซึ่งการวิดีโอคอล (Video call) มีทั้งแบบติดต่อสื่อสารผ่านแชท Facebook ,Line และในส่วนของ Gmail (Google Workspace) ก็มีเช่นกัน แต่จะมีวิธีการเข้าร่วมการติดต่อสื่อสารแบบวิดีโอคอล (Video call) อย่างไร มาดูกันเลย

เริ่มวิดีโอคอล

1.เข้าสู่ระบบ บัญชี Gmail (Google Workspace)

2.คลิกที่ การสนทนาใหม่ (New conversation)

3. ให้ป้อนชื่อ,อีเมล (Email) หรือเบอร์โทรศัพท์ ที่ต้องการให้เข้าร่วมการประชุมผ่านวิดีโอคอล (Video call)

4.เมื่อป้อนรายชื่อที่ต้องการจะให้เข้าร่วมการประชุมผ่านวิดีโอคอล (Video call) เสร็จแล้ว ให้คลิกที่รายชื่อ และคลิก เริ่ม Hangouts วิดีโอ (Start video call) เพื่อเริ่มการประชุม

5.ก่อนเข้าร่วมการประชุมครั้งแรก โปรดอนุญาตให้สิทธิ์การเข้าใช้งานไมโครโฟน (microphone) และกล้อง (camera) ก่อน  คลิกที่ อนุญาต (Allow) และเริ่มการประชุมผ่านวิดีโอคอล (Video call) ได้เลย

เข้าร่วมวิดีโอคอล

1.เข้าสู่ระบบ บัญชี Gmail (Google Workspace)

2.คลิกเข้าร่วมการประชุม (Join a meeting)

3.ให้ป้อนรหัสการประชุมที่ผู้จัดส่งให้ จากนั้นคลิก เข้าร่วม (Join)

4.ก่อนเข้าร่วมการประชุม เราสามารถปิดหรือเปิดกล้อง (camera) และไมโครโฟน (microphone) ได้ จากนั้นคลิก เข้าร่วมเลย เพื่อเข้าร่วมการประชุม

5.เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นให้กด วางสาย

บทความที่เกี่ยวข้อง

[Google Workspace Admin] การตั้งค่า MX และ TXT สำหรับ Google Workspace และ Gmail

เพิ่มกิจกรรมจาก Gmail ไปยัง google calendar โดยอัตโนมัติ

ดู google calendar จากหน้า gmail

การใช้งาน Gmail แบบ Offline

จัดการข้อความขาเข้าโดยอัตโนมัติด้วยตัวกรองของ Gmail

ใช้บัญชี Gmail จาก app อื่นต้องตั้งค่าอย่างไร

ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้งาน Gmail (Google Workspace) ในการติดต่อสื่อสารทั้งทางด้านธุรกิจและธุระส่วนตัว โดยการใช้งานมีหลากหลายทางเลือก ทั้งใช้งานผ่านเว็บไซต์ (Website) โดยตรง ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) ในสมาร์ทโฟน (smartphone) ใช้งานผ่าน Microsoft Outlook หรือ Apple Mail เป็นต้น แต่รู้หรือไม่ว่าใน Gmail (Google Workspace) สามารถที่จะดึงข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น (Application) อื่นๆ เข้ามาได้ โดยการเปิดใช้งาน IMAP และ POP แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้ขั้นตอนการเปิดใช้งาน เรามาทำความรู้จัก IMAP และ POP ก่อนว่าคืออะไร

IMAP คืออะไร ?

IMAP คือ การดาวน์โหลด (Download) ข้อความในอีเมล (Email) เข้ามาในเครื่องที่เรากำลังใช้งานอยู่แต่ไม่ได้เป็นการจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ เราสามารถใช้งาน IMAP ได้จากอุปกรณ์ต่างๆหลายเครื่อง ทั้งในโทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) แท็บเล็ต (Tablet) เป็นต้น

POP คืออะไร ?

POP คือ การดาวน์โหลด (Download) ข้อความในอีเมล (Email) จากแอพพลิเคชั่น (Application) อื่น เช่น Microsoft Outlook จากเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) อีกเครื่องหนึ่ง เข้ามาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) ที่เรากำลังใช้งานอยู่ ซึ่งหลังจากการดาวน์โหลด (Download) เสร็จแล้ว ข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) ที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกลบออก ซึ่งหมายความว่าการเปิดใช้งาน POP จะเข้าใช้งานได้แค่ทีละเครื่องและสามารถเข้าถึงข้อมูลอีเมล (Email) โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) เครื่องเดิมเท่านั้น

ขั้นตอนการเปิดใช้งาน IMAP และ POP

1. เข้าสู่ระบบอีเมล (Email) จากนั้นไปที่ฟันเฟืองหรือการตั้งค่า (Settings) เลือก ดูการตั้งค่าทั้งหมด (See all settings)

2.คลิกที่การส่งต่อและPOP/IMAP (Forwarding and POP/IMAP)

3.หัวข้อ ดาวน์โหลด (Download) ผ่าน POP (POP download) ให้คลิกเลือก เปิดใช้ POP ในอีเมล (Email) ทั้งหมด (Enable POP for all mail)

4.หัวข้อ การเข้าถึงแบบ IMAP (IMAP access) ให้คลิกเลือก ใช้ IMAP (Enable IMAP)

5.เลื่อนมาด้านล่างในหัวข้อ ขีดจำกัดของขนาดโฟลเดอร์ (Folder size limits)ให้คลิกเลือก ไม่จำกัดจำนวนข้อความในโฟลเดอร์ IMAP (ค่าเริ่มต้น) (Do not limit the number of messages in an IMAP folder (default) ) จากนั้นคลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save Changes) เท่านี้การเปิดใช้งาน IMAP และ POP ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

เขียนจดหมายส่งในภายหลังด้วยกำหนดการส่งใน Gmail

การเปลี่ยนมุมมองการสนทนาของ Gmail

แนะนำเรื่องการเขียน Gmail Smart

ค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็วใน Gmail, เอกสาร, ไดรฟ์, ปฏิทินและอื่น ๆ

Inbox by Gmail ปิดตัวลงเมื่อปลายเดือนมีนาคม