รู้หรือไม่โหมดข้อมูลลับใน Gmail ป้องกันข้อมูลและไฟล์แนบในการส่ง Email ได้

โหมดข้อมูลลับใน Gmail (Google Workspace) มีประโยชน์อย่างไร

การส่งข้อความและไฟล์แนบโดยใช้โหมดข้อมูลลับใน Gmail (Google Workspace) จะช่วยป้องกันข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไม่ให้มีการเข้าถึงจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตได้ นอกจากนี้การใช้โหมดข้อมูลลับใน Gmail (Google Workspace) ยังสามารถที่จะกำหนดวันหมดอายุของข้อความหรือเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อความและไฟล์แนบได้ตลอดเวลา และผู้รับจะไม่มีสิทธิ์ในการส่งต่อ คัดลอก พิมพ์ ดาวน์โหลด(Download) ข้อความและไฟล์แนบที่ส่งไปได้

หมายเหตุ: ถึงแม้ว่าการใช้โหมดข้อมูลลับในการส่งข้อความและไฟล์แนบจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้รับส่งต่อ คัดลอก พิมพ์ ดาวน์โหลดข้อความหรือไฟล์แนบที่ส่งไปโดยไม่ได้ตั้งใจได้ แต่ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ผู้รับถ่ายภาพหน้าจอหรือรูปภาพของข้อความและไฟล์แนบ และหากผู้รับมีโปรแกรมที่เป็นอันตรายในคอมพิวเตอร์ (Computer) ก็สามารถที่จะดาวน์โหลด (Download) คัดลอก ข้อความหรือไฟล์แนบได้

ขั้นตอนในการใช้โหมดข้อมูลลับในการส่งข้อความและไฟล์แนบ

1.เข้าสู่ระบบ Gmail (Google Workspace) แล้วเลือก เขียน

2.เมื่อใส่อีเมล (Email) ผู้รับ ชื่อเรื่อง และส่วนของเนื้อหาที่จะส่งเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกเปิดโหมดข้อมูลลับด้านล่าง

3.ในส่วนนี้ให้ทำการกำหนดวันหมดอายุของอีเมล (Email) ว่าต้องการให้อีเมล (Email) ทำลายตัวเองในอีกกี่วันนับตั้งแต่วันที่ผู้รับได้รับ หลังจากที่อีเมล (Email) ทำลายตัวเองตามวันที่กำหนดไว้ผู้รับจะไม่สามารถเปิดดูอีเมล (Email) ฉบับนี้ได้อีก

 

4.ในส่วนนี้สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้ผู้รับใช้รหัสผ่านในการเปิดอีเมล (Email) ฉบับนี้หรือไม่

-ไม่มีรหัสผ่านทาง SMS  ถ้าผู้รับใช้ Gmail (Google Workspace) ผู้รับจะสามารถเปิดอีเมล (Email) ฉบับนี้ได้โดยตรง แต่ถ้าผู้รับไม่ได้ใช้Gmail (Google Workspace) จะได้รับรหัสผ่านทางอีเมล (Email)

-รหัสผ่านทาง SMS ใส่หมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับ เมื่อผู้รับจะเปิดอ่านอีเมล (Email) ฉบับนี้ จะได้รับรหัสผ่านทาง SMS จากนั้นกดบันทึก

 

5.ถ้าเลือกรหัสผ่านทาง SMS เมื่อคลิกส่ง ระบบจะให้เลือกประเทศและใส่หมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับ จากนั้นคลิกส่งอีกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Email แบบ Dynamic ใน Gmail พร้อมใช้งานแล้ว

Sent Limit ของ Gmail สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

Sent Limit ในการรับส่ง Gmail สำหรับ Google Workspace

วิธีการเปลี่ยนภาษา Gmail บน G suite

Smart Compose พร้อมใช้งานใน Gmail Android และ iOS

 

การเปลี่ยน Password (รหัสผ่าน) ใน Gmail/Workspace ช่วยให้ปลอดภัยและมีวิธีทำอย่างไร

การเปลี่ยน Password (รหัสผ่าน) บัญชี Gmail ของเราบ่อยๆช่วยให้บัญชีของเราปลอดภัยมากขึ้นเนื่องด้วยการเปลี่ยน Password บ่อยๆจะยากต่อการถูกมิจฉาชีพหรือบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีเข้ามาโจรกรรมข้อมูลของเรา เพราะในบัญชี Gmail ของเรานั้นจะมีข้อมูลที่เป็นส่วนสำคัญทั้งในด้านของการติดต่อธุรกิจและการทำธุรกรรมต่างๆ โดยส่วนใหญ่การเปลี่ยน Password ควรทำทุกๆ 3-6 เดือน และ Password ที่ตั้งใหม่ ควรประกอบไปด้วย ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก ตัวเลข และตัวอักขระพิเศษผสมกันเพื่อยากต่อการคาดเดา การเปลี่ยน Password Gmail นั้นสามารถทำได้ทั้งใน Smartphone และ Computer โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนการเปลี่ยน Password (รหัสผ่าน) ใน Gmail

1.เข้าสู่ระบบบัญชี Gmail  ของเรา แล้วเลือกที่ บัญชี Google

2.จากนั้นไปที่หัวข้อ ความปลอดภัย เลื่อนลงมาที่หัวข้อ การลงชื่อเข้าใช้ Google แล้วคลิกที่รหัสผ่าน

3.จากนั้นระบบจะให้เรายืนยันตัวตนโดยการใส่ รหัสผ่าน จากนั้นคลิก ถัดไป

4.ขั้นตอนนี้ให้กำหนดรหัสผ่านใหม่ที่เราต้องการใส่ลงไปให้ครบถ้วนทั้งสองช่อง โดยการตั้งรหัสผ่านใหม่ควรที่จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็ก-ตัวใหญ่ ตัวเลข และอักขระพิเศษผสมกันอย่างน้อย 8 ตัว เพื่อยากต่อการคาดเดา จากนั้นคลิกเปลี่ยนรหัสผ่าน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

Meetใน Gmail บนมือถือตอนนี้กำลังเปิดตัวบน iOS

Google ให้บริการภาษาสเปนใน Docs และ Gmail แล้ว

สามารถปรับแต่งเค้าโครง gmail ได้แล้ว

Google เปิดใช้งาน Google Meet ใน Gmail บนมือถือ

แก้ไขกิจกรรมในปฏิทินโดยตรงจาก Gmail และ Docs

 

การตั้งค่า Gmail ให้ปลอดภัยตรวจสอบการเข้าระบบ 2 ชั้น

การตั้งค่า Gmail ให้ปลอดภัยโดยการตรวจสอบการเข้าสู่ระบบ 2 ชั้น คือ การเปิดระบบรักษาความปลอดภัยให้กับบัญชี Gmail ของเราโดยการเข้าสู่ระบบต้องยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น เพราะในปัจจุบันการติดต่อธุรกิจ และการทำธุรกรรมต่างๆที่สำคัญล้วนแล้วแต่ต้องใช้บัญชี Gmail ในการดำเนินการ นอกจากการเปลี่ยน Password บ่อยๆ แล้ว การยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น ก็ช่วยป้องกันการถูกมิจฉาชีพหรือ Hacker ที่ไม่หวังดีกับเราขโมยข้อมูลในส่วนนี้ไปได้เพราะถึงแม้ Hacker เหล่านี้จะได้ Password ของเราไปแต่เมื่อเปิดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้นไว้ Hacker ก็จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Gmail ของเราได้

ขั้นตอนเปิดการยืนยันความปลอดภัย 2 ขั้นตอน Gmail ผ่าน Computer

1.เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ www.Google.com จากนั้นคลิกที่ Google Account ของเรา แล้วเลือก Manage your Google Account (จัดการบัญชี Google)

 

2.เมื่อเข้ามาแล้วให้เลือกที่ Personal info (ข้อมูลส่วนบุคคล) จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างที่หัวข้อ Contact info (ข้อมูลติดต่อ) ให้ทำการใส่เบอร์โทรศัพท์ของเราให้เรียบร้อย

3.เลือกไปที่ Security (ความปลอดภัย) จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างที่หัวข้อ Signing in to Google (การลงชื่อเข้าใช้ Google) จากนั้นเลือกที่ 2-Step Verification (การยืนยันแบบสองขั้นตอน) แล้วคลิกเข้าไป

4.เมื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าให้คลิกไปที่ GET STARTED (เริ่มต้นใช้งาน)

5.เมื่อเข้าสู่หน้านี้ระบบจะให้ยืนยันตัวตนโดยการใส่ Password (รหัสผ่าน) อีกครั้ง เมื่อทำการใส่ Password เรียบร้อยแล้ว ให้คลิก Next (ถัดไป) ได้เลย

6.ในส่วนของหน้านี้ให้ทำการ Login Email ของเราไว้ในโทรศัพท์มือถือที่ต้องการใช้ในการยืนยันตัวตนและระบบจะแสดงว่าเราได้ Login Email ไว้ในโทรศัพท์มือถือรุ่นใด เมื่อเสร็จแล้วกด Continue (ดำเนินการต่อ)

7.ในส่วนของหน้านี้ระบบจะให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นทำการเลือกว่าเราจะรับรหัสการยืนยันตัวตนด้วยวิธีใด ตัวเลือกแรก คือ Text message (ข้อความ) ตัวเลือกสอง คือ Phone call (การโทร) เมื่อเลือกแล้วคลิกที่ Send (ส่ง)

8.ในส่วนของหน้านี้ระบบจะส่งรหัสไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่เราได้กรอกไว้ก่อนหน้านี้ ให้ทำการกรอกรหัสที่ได้รับให้เรียบร้อย แล้วคลิก Next (ถัดไป)

9.ในส่วนของหน้านี้ระบบจะถามว่าเราต้องการที่จะเปิดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนหรือไม่ ให้เราทำการคลิกที่ Turn on เพื่อเป็นการเปิด เท่านี้การเปิดระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 2 ขั้นตอนก็เป็นอันเสร็จสิ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ขยายขีด จำกัด ผู้รับมอบสิทธิ์ของ Gmail

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานได้โดยตรงจาก Gmail

Add-ons ใน Gmail ด้วยฟังก์ชัน Compose-time

ตั้งสถานะไม่อยู่ที่ Chat ใน Gmail ได้แล้ว!

การทำงานแบบรวมใน Gmail. เพื่อประหยัดเวลาในการทำงาน

 

การสร้างลายเซ็น(Signature) Gmail ใน Google workspace

การสร้างลายเซ็นต์ (คำลงท้าย Email) คือ การสร้าง Signature เกี่ยวกับตัวเราหรือเกี่ยวกับธุรกิจของเรา เพื่อให้ผู้รับได้ทราบว่าเราคือใครและง่ายต่อการติดต่อกลับในครั้งถัดไป โดยการสร้างลายเซ็นต์สามารถใส่รายละเอียดได้ทั้ง ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หรือชื่อเว็บไซต์ของเรา หรือแม้กระทั่งคำลงท้ายที่ต้องพิมพ์บ่อยๆ เช่น ขอแสดงความนับถือ ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ลายเซ็นต์ใน Email ช่วยเราได้อย่างไร

ลายเซ็นต์หรือคำลงท้าย Email ช่วยให้ผู้รับ ทราบถึงว่าผู้ส่งมีตัวตนอยู่จริงและป้องกันการปลอมแปลง Email เพราะโดยทั่วไปการปลอมแปลง Email นั้นจะไม่สามารถปลอมลายเซ็นต์หรือคำลงท้าย Email ของบุคคลที่เป็นผู้ส่งได้ ทำให้ลายเซ็นต์หรือคำลงท้าย Email นั้นสำคัญเพราะเป็นการระบุข้อมูลส่วนตัว รวมถึงมีสัญลักษณ์เฉพาะองค์กร เช่น โลโก้บริษัท เป็นต้น

ขั้นตอนการสร้างลายเซ็นด้วย Gmail

1.เข้าสู่ระบบ Gmail จากนั้นคลิกที่รูปฟันเฟืองหรือ Settings เลือก See all Settings

2.ในแถบ General (ทั่วไป) ให้เลื่อนลงมาที่หัวข้อ Signature แล้วเลือก Create new

3.ตั้งชื่อลายเซ็น(คำลงท้าย Email) ที่เราต้องการ เสร็จแล้วคลิกที่ Create

4.จากนั้นกำหนดข้อความที่เราต้องการให้แสดงผล นอกจากนี้สามารถแทรกรูปภาพ ลิงก์ หรือแม้กระทั่งการกำหนดรูปแบบของข้อความ การเปลี่ยนสีของข้อความ การจัดตำแหน่งต่างๆ และปรับขนาดของตัวอักษรได้อีกด้วย

5.หลักจากกำหนดข้อความที่เป็นลายเซ็นต์ (คำลงท้าย Email) เรียบร้อยแล้วให้เลื่อนลงมาด้านล่าง ที่หัวข้อ Signature defaults (ค่าเริ่มต้นของลายเซ็นต์) ในช่องทั้งสองช่องด้านล่างให้เลือกเป็นชื่อลายเซ็นต์ (คำลงท้าย Email) ที่เราตั้งไว้ทั้งสองช่อง 

6.เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วให้เลื่อนลงมาด้านล่างสุดแล้วคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง)

7.หลักจากบันทึกการเปลี่ยนแปลงแล้วเมื่อจะส่ง Email ใหม่ จะมีลายเซ็นต์ (คำลงท้าย Email) ขึ้นมาให้ทุกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

เข้าร่วมการประชุมและการโทรด้วยเสียงจากการแชทแบบ 1:1 โดยใช้ Google Chat ใน Gmail บนมือถือ

การอัปเดตและการปรับปรุงภาพสำหรับช่อง To, Cc และ Bcc ใน Gmail

ทำการค้นหาอีเมลอย่างละเอียดด้วยตัวกรองแบบใหม่ใน Gmail บนเว็บ

บันทึกรูปภาพจากข้อความ Gmail ไปยัง Google Photos ด้วยปุ่ม “บันทึกในรูปภาพ”

ขณะนี้การส่งออก Gmail ในห้องนิรภัยมีไฟล์ข้อมูล CSV metadata

 

การอัปเดตและการปรับปรุงภาพสำหรับช่อง To, Cc และ Bcc ใน Gmail

การปรับปรุงหลายอย่างใน Gmail เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เขียนอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจมากขึ้น เมื่อโต้ตอบกับช่อง “To” “CC” และ “Bcc” คุณจะสังเกตเห็นการปรับปรุงบางอย่างดังนี้:

  • เมนูคลิกขวาใหม่เพื่อดูชื่อเต็มและอีเมลของผู้รับ แก้ไขชื่อผู้ติดต่อ คัดลอกที่อยู่อีเมล เปิดการ์ดข้อมูลของผู้รับอย่างง่ายดาย
  • Avatar chips สำหรับผู้รับ
  • ตัวบ่งชี้ที่ดีขึ้นเมื่อเพิ่มผู้ใช้ภายนอกองค์กรและผู้ติดต่อ
  • ตัวบ่งชี้ภาพเมื่อคุณได้เพิ่มผู้ใช้เป็นผู้รับแล้ว และอื่นๆ

นอกจากนี้ การอัปเดตเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อส่วนขยายของ Chrome บางรายการ ดูส่วน “รายละเอียดเพิ่มเติม” ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ทำไมถึงสำคัญ
เราหวังว่าการปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ การปรับปรุงจะทำให้คุณสามารถ:

  • ดูที่อยู่อีเมลทั้งหมดของผู้รับ และแก้ไขหากจำเป็น
  • คัดลอกที่อยู่อีเมล
  • เข้าถึงบัตรข้อมูลของผู้ใช้ โปรดทราบว่าคุณสามารถเข้าถึงการ์ดข้อมูลได้โดยวางเมาส์เหนือชิปของผู้รับ หรือเลือกและใช้แป้นพิมพ์ลัด Alt/Option + →

รายละเอียดเพิ่มเติม
ตัวเลือกใหม่ในการควบคุมชื่อผู้ติดต่อที่จะแสดงต่อผู้รับอีเมล
นอกจากนี้ สามารถใช้เมนูนี้เพื่อเปลี่ยนวิธีการแสดงชื่อผู้รับ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีผู้ติดต่อที่บันทึกเป็น “ผู้จัดการฝ่ายขาย” สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ติดต่อที่จะแสดงต่อผู้อื่นที่ได้รับอีเมล

หมายเหตุ: การดำเนินการนี้จะไม่เปลี่ยนชื่อที่บันทึกไว้ใน Contacts เฉพาะลักษณะที่ปรากฏต่อผู้อื่นในอีเมลเท่านั้น

 

 

หมายเหตุสำคัญ: ฟีเจอร์เฉพาะนี้ไม่มีให้บริการสำหรับลูกค้า Google Workspace for Education Fundamentals, Education Standard, Education Plus หรือ Teaching and Learning Upgrade

ตัวบ่งชี้ภาพเมื่อเขียนอีเมล
เพิ่มตัวบ่งชี้ภาพที่ดีขึ้นเพื่อช่วยแนะนำผู้ใช้เมื่อเขียนอีเมล ผู้รับแต่ละคนจะมี avatar chip  ซึ่งมีประโยชน์ในการระบุว่าใครถูกเพิ่มในอีเมล

เน้นผู้รับภายนอก
เมื่อมีการเพิ่มผู้ใช้ภายนอกองค์กรของคุณไปยังรายชื่อผู้รับของคุณ:

  • ผู้ติดต่อภายนอกที่คุณเคยโต้ตอบด้วยมาก่อนจะถูกเน้นด้วยสีเหลืองเข้ม
  • ผู้ติดต่อภายนอกที่คุณไม่เคยโต้ตอบด้วยมาก่อนจะถูกเน้นพร้อมกับอวาตาร์ภายนอกองค์กรและแบนเนอร์คำเตือน

 

การเปลี่ยนการแสดงผลสำหรับโดเมนภายในองค์กรของคุณ
นอกจากนี้ ชื่อโดเมนที่ต่างกันภายในองค์กรเดียวกันจะไม่ถูกทำเครื่องหมายเป็น “ภายนอก” อีกต่อไป ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้จาก @google.com จะไม่ปรากฏเป็นบุคคลภายนอกองค์กร หากเพิ่มในอีเมลจากผู้ใช้ @youtube.com วิธีนี้จะช่วยขจัดคำเตือนและความสับสนที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่สื่อสารระหว่างแบรนด์ต่างๆ ภายใต้ร่มเดียวกันหรือระหว่างกระบวนการของบริษัทหนึ่งในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทอื่น

ปรับปรุงอินเทอร์เฟซสำหรับผู้รับที่ซ้ำกัน
เครื่องหมายถูกเพื่อระบุผู้รับที่รวมอยู่ในอีเมลแล้ว นอกจากนี้ เมื่อวางเมาส์เหนือหรือเลื่อนดูรายชื่อติดต่อภายในเมนูแบบเลื่อนลง จะสังเกตเห็นโทนสีเทาเพื่อระบุว่าเมาส์หรือแป้นพิมพ์อยู่ที่ใด นอกจากนี้ Gmail จะลบรายการที่ซ้ำกันโดยอัตโนมัติภายในช่องเดียวกัน เมื่อลากและวางระหว่างช่องถึง สำเนาถึง และสำเนาลับถึง

 

Cr.https://workspace.google.com/whatsnew/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ขยายขีด จำกัด ผู้รับมอบสิทธิ์ของ Gmail

Google เปิด Dark mode ให้ใช้ใน Docs,Sheet และ Slide

การใช้ห้องนิรภัยกู้ข้อมูลคืน Gmail

Sent Limit ของ Gmail สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

 

TECHNOLOGY LAND CO., LTD.

ตัวแทน Google Workspace อย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีแลนด์

การส่งข้อความและไฟล์แนบเป็นความลับ

การส่งข้อความและไฟล์แนบเป็นความลับ มีวิธีดังนี้

1.ให้เข้าไปที่ Gmail ในคอมพิวเตอร์

2.ใส่ User Password ให้เรียบร้อยแล้วคลิก ถัดไป

3.คลิก เขียน

4.คลิกเปิดโหมดข้อมูลลับ  เปิดโหมดข้อมูลลับ ตรงด้านล่างขวามือ

5.กำหนดวันหมดอายุและรหัสผ่าน การตั้งค่านี้จะส่งผลต่อข้อความและไฟล์แนบ

  • หากเลือก “ไม่มีรหัสผ่านทาง SMS” สำหรับผู้รับที่ใช้แอป Gmail จะเปิดได้โดยตรง ส่วนผู้รับที่ไม่ได้ใช้ Gmail จะได้รับรหัสผ่านทางอีเมลล์
  • หากเลือก “รหัสผ่านทาง SMS” ผู้รับจะได้รับรหัสผ่านทางข้อความ โปรดตรวจสอบว่าคุณป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับถูกต้อง ไม่ใช่ป้อนของคุณเอง

6.คลิก บันทึก

เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นการส่งข้อความและไฟล์แนบเป็นความลับ

 

TECHNOLOGY LAND CO., LTD.

ตัวแทน Google Workspace อย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีแลนด์

Limit การรับอีเมล

Limit การรับอีเมล

เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพและบัญชีมีความปลอดภัย Google จึงจำกัดจำนวนข้อความอีเมลที่ผู้ใช้รับได้ต่อนาที ต่อชั่วโมง และต่อวัน การตั้งค่าบัญชีให้รับข้อความอัตโนมัติบ่อยๆ เช่น ไฟล์บันทึก จะทำให้มีโอกาสรับอีเมลถึงจำนวนที่กำหนดมากขึ้นหากมีการใช้พื้นที่จนครบกำหนดไว้แล้วผู้ใช้งานจะทราบได้ทันที่ว่า email ใกล้เต็ม เช่น ค้นหาข้อมูลได้ช้าลง ข้อความขาเข้าทั้งหมดจะถูกส่งคืนไปยังผู้ส่งและหากบัญชีผู้ใช้ถูกระงับผู้ดูแลระบบหรือ Admin สามารถเข้าไป reset บัญชีที่ถูกระงับได้

ตารางต่อไปนี้จะแสดงขีดจำกัดสำหรับแต่ละช่วงเวลา มีผลกับ Google Workspace เปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบเพื่อเป็นการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานของ Google

คำอธิบาย อีเมลทั้งหมดที่ส่งถึงบัญชีนี้ อาจปรากฏเป็นการสนทนาใน Gmail แบบที่เป็นชุดข้อความและไม่เป็นชุดข้อความ
ต่อนาที 60
ต่อชั่วโมง 3,600
ต่อวัน 86,400
ขนาดสูงสุด คุณรับอีเมลได้สูงสุด 50 MB

หมายเหตุ: ถ้าต้องการส่งไฟล์แนบที่มีขนาดใหญ่กว่า 25MB ให้ใช้ Google ไดรฟ์หรือบริการแชร์ไฟล์อื่นๆ

อ้างอิงข้อมูลจาก : https://support.google.com

โดยทั่วไปการจำกัดการรับอีเมลใหม่จะมีผลประมาณ 24 ชั่วโมง หลังจากพ้นช่วงเวลานี้แล้ว ระบบจะรีเซ็ตขีดจำกัดการรับโดยอัตโนมัติ

 

TECHNOLOGY LAND CO., LTD.

ตัวแทน Google Workspace อย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีแลนด์

Sent Limit ของ Gmail สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์หากมีการต้องการใช้ email หรือหาก email ของผู้ใช้งานมีการใช้งานหลายๆเครื่องหรือหลายอุปกรณ์การ add acount ต้อง add แบบ imap เมื่อผู้ใช้ใช้ Gmail สำหรับแอปบนมือถือในโหมด Google Sync จะมีการบังคับใช้เกณฑ์จำกัดการส่งแบบเดียวกับใช้ Gmail ในเว็บเบราว์เซอร์หรือหากใช้ Gmail สำหรับแอปบนมือถือในโหมด IMAP จะมีการบังคับใช้เกณฑ์จำกัดการส่ง IMAP ดังนี้

ประเภทเกณฑ์จำกัด
เกณฑ์จำกัด
ข้อความต่อวัน
ขีดจำกัดการส่งรายวัน*
2,000 (500 สำหรับบัญชีทดลองใช้งาน)
ข้อความที่ส่งต่อโดยอัตโนมัติ
ข้อความที่ส่งต่อโดยอัตโนมัติไปยังบัญชีอื่น ซึ่งไม่รวมอยู่ในเกณฑ์จำกัดการส่งรายวัน
10,000
ตัวกรองอีเมลที่ส่งต่ออัตโนมัติ
ตัวกรองบัญชีที่ส่งต่ออีเมลโดยอัตโนมัติ
20
จำนวนผู้รับต่อข้อความ
ที่อยู่ในช่องถึง สำเนา สำเนาลับของอีเมลฉบับเดียว*
2,000 (ภายนอก 500 ราย)
จำนวนผู้รับต่อข้อความที่ส่งผ่าน SMTP (โดยผู้ใช้ POP หรือ IMAP) หรือGmail API
ที่อยู่ในช่องถึง สำเนา และสำเนาลับของอีเมลฉบับเดียว* ซึ่งรวมอีเมลที่ส่งโดยใช้ smtp-relay.gmail.com หรือ smtp.gmail.com*
100
จำนวนผู้รับทั้งหมดต่อวัน
ที่อยู่แต่ละรายการจะนับรวมในอีเมลที่ส่งทั้งหมด เช่น อีเมล 5 ฉบับที่ส่งไปยังที่อยู่จำนวน 10 รายการจะนับเป็นผู้รับจำนวน 50 คน*
10,000
จำนวนผู้รับภายนอกต่อวัน
ที่อยู่อีเมลภายนอกโดเมนหลักของคุณ รวมถึงชื่อแทนโดเมน และโดเมนสำรอง
3,000
จำนวนผู้รับที่ไม่ซ้ำกันต่อวัน
ที่อยู่แต่ละรายการจะถูกนับวันละครั้ง เช่น อีเมล 5 ฉบับที่ส่งไปยังที่อยู่ 10 รายการจะนับเป็นผู้รับจำนวน 10 คน*
3,000 (ภายนอก 2,000 รายและภายนอก 500 รายสำหรับบัญชีทดลองใช้งาน)

อ้างอิงข้อมูลจาก: https://support.google.com

 

 

 

TECHNOLOGY LAND CO., LTD.

ตัวแทน Google Workspace อย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีแลนด์